บทความ | 2019 วิว
AURORA Diamond เชื่อว่าเหตุการณ์การระบาดของโรคเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้คนไทยหันกลับมาถามตัวเองว่าควรลงทุนในอะไรดี เพื่อเพิ่มความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง เพราะการระบาดใหญ่ทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อรายได้ของคนส่วนใหญ่ บางคนเคยได้รับเงินเดือนสูงก็ถูกลดเงินเดือน เพื่อช่วยให้องค์กรอยู่รอด และมีคนไม่น้อยที่โชคร้ายกลายเป็นคนตกงาน เนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องปิดตัวลงเพราะแบกรับค่าใช้จ่ายไม่ไหว
หลังจากเหตุการณ์คลี่คลายลง หลายคนจึงเริ่มต้นมองหาการลงทุนแบบจริงจัง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับตัวเอง และครอบครัว โดยหนึ่งในการลงทุนที่ให้ผลตอบสูง และตอบโจทย์ความชอบส่วนตัวไปพร้อม ๆ กัน คือ Passion Investment หรือการลงทุนในของสะสมไว้ทำกำไร โดยของสะสมที่ได้นิยมมากที่สุด คือ การลงทุนเครื่องประดับอย่างเพชร ทองคำ และนาฬิกาข้อมือ เนื่องจากเป็นของสะสมที่หาซื้อได้ง่าย ขายทำกำไรไม่ยาก ความเสี่ยงต่ำ และที่สำคัญยิ่งเก็บไว้นานยิ่งได้ผลตอบแทนสูง
สำหรับการลงทุนเครื่องประดับอย่าง ‘เพชร’ ถือเป็นการลงทุนที่เหมาะกับสายสะสมที่ไม่ชอบความเสี่ยง เพราะเพชรเป็นสินทรัพย์ที่ราคาตกยาก ผันผวนตามสถานการณ์เศรษฐกิจโลกน้อย แถมมีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลเรื่องราคาพบว่า ในระยะเวลา 10 ปี เพชรมีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 100% นอกจากนี้ ทาง Future Market Insights ยังได้คาดการณ์ว่าตลาดการค้าเพชร และกลุ่มอัญมณีอื่นๆ ในช่วงปี 2021 – 2031 สามารถเติบโตเฉลี่ยได้ปีละ 5.7% จึงเป็นการการันตีว่าลงทุนเพชรขาดทุนยาก และได้กำไรแน่นอน อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพชรเหมาะกับการลงทุนระยะยาวมากกว่าการลงทุนระยะสั้น หรือระยะกลาง อีกทั้งยังต้องให้ความสำคัญกับการเลือกชนิด สี ขนาด และใบรับรอง (Certificate) มาตรฐานของเพชรด้วย
สีและรูปทรงเพชร นับว่าเป็นสิ่งแรกสำหรับคนอยากลงทุนเครื่องประดับประเภทนี้ ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากเพชรแต่ละสี แต่ละรูปทรง มีราคาแตกต่างกันออกไป โดยปัจจุบันหากพิจารณาสีและรูปทรงของเพชร สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่
เพชรสีขาว หรือเพชรไร้สี คือ เพชรบริสุทธิ์ที่มีความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ได้รับความนิยมทั้งในแง่ของการสวมใส่เป็นเครื่องประดับ และซื้อเก็บไว้เพื่อลงทุนเอากำไรในระยะยาว โดยราคาของเพชรประเภทนี้ ขึ้นอยู่กับสี เกรดคุณภาพ และรูปทรงของเพชร ซึ่งเพชรที่ขุดค้นพบประมาณ 98% จัดอยู่ในประเภท Type Ia และ Ib หรือ เพชรที่มีมลทินเจือปนจำนวนมาก ในขณะที่อีก 2% เป็นประเภท Type II คือ เพชรที่มีมลทินน้อย หรือไม่มีเลย ทำให้มีราคาสูงกว่า Type Ia และ Ib ประมาณ 2-3% ของราคาขาย ส่วนการจัดลำดับเกรดคุณภาพ และสีของเพชรจะใช้ระบบการจัดลำดับสีเพชรของสถาบันเพชรยักษ์ใหญ่ระดับโลกจากประเทศอังกฤษ หรือ De Beers โดยเรียงเกรดสีเพชรจากขาวไร้สีที่สุด ไปจนถึงสีเหลืองด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษตั้งแต่ D-Z โดยเกรด D-F หรือ Colorless เป็นกลุ่มเพชรสีขาว หรือเพรชไร้สี เกรด G-M หรือ Near Colorless เป็นกลุ่มเพชรสีขาว แต่ประกายเพชรมีสีเหลืองนวล ในขณะที่กลุ่ม N-R หรือ Very Faint Yellow เป็นกลุ่มเพชรที่มีสีเหลืองจาง หรือสีอมเหลืองเล็กน้อย และสุดท้าย คือ กลุ่ม S-Z หรือ Faint Yellow เป็นกลุ่มเพชรสีเหลือง หรือกลุ่มเพชร Fancy
โดยการเลือกลงทุนเพชรควรเลือกเพชรที่มีใบเซอร์จากสถาบันรับรองที่น่าเชื่อถือ ควรเลือกเป็นเกรดสี D-F เพราะเป็นที่นิยมมากกว่าเกรดอื่น ๆ และที่สำคัญควรเลือกเป็นเพชรรูปทรงกลม เพราะถือเป็นทรงคลาสสิกที่มีการเจียระไนให้ได้สัดส่วนสมมาตรมากที่สุด ทำให้มีความระยิบระยับเป็นประกายสะท้อนแสงได้ดีกว่าเพชรรูปทรงอื่น ๆ เป็นทรงเพชรที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และเป็นเพชรที่มีราคาสูงกว่าเพชรรูปทรงอื่น ๆ ทำให้เหมาะกับการนำมาลงทุนในระยะยาวเพื่อเก็งกำไร
ถือเป็นกลุ่มเพชรที่หายากกว่าเพชรสีขาว หรือเพชรไร้สี ปัจจุบันได้รับความนิยมในกลุ่มวัยรุ่นที่ต้องการสวมใส่เครื่องประดับที่มีสีสันโดดเด่น และรูปทรงที่หลากหลาย เช่น รูปสี่เหลี่ยม รูปหัวใจ หรือรูปทรงอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทรงกลม สีที่หาง่ายที่สุดคือ สีเหลืองและสีน้ำตาล ส่วนสีอื่น ๆ ที่ได้รับความนิยมอย่างสีฟ้า สีน้ำเงิน สีแดง สีเขียว สีม่วง สีชมพู สีส้ม และสีดำ อย่างไรก็ตาม เพชรแฟนซีอาจไม่เหมาะกับการนำมาลงทุนในระยะยาว เนื่องจากมีราคาที่ต่ำกว่าเพชรทรงกลมสีขาว หรือเพชรไร้สี
แม้การลงทุนเครื่องประดับประเภทเพชรจะให้ผลตอบแทนสูง แต่ผลกำไรตอบแทนที่มาก หรือน้อยนั้น ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเพชรที่เลือกสะสม ก่อนตัดสินใจลงทุนจึงต้องให้ความสำคัญกับข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้
ความหมายของหลัก 4Cs คือ 1. Cut คือ การเจียระไนเพชร 2. Color คือ สีของเพชรเกรดสูง 3. Carat Weight คือ น้ำหนักกะรัต และ 4. Clarity คือ ความสะอาดของเพชร ซึ่งเพชรที่ดีตามมาตรฐานตาม 4Cs ต้องมีเหลี่ยมมุมที่สมมาตร สีเพชรอยู่ในเกรดดี น้ำหนักกะรัตสูง สะอาด ไร้ตำหนิ และเปล่งประกายใต้แสงไฟ อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้กับนักสะสมเพชรมือใหม่ ทาง AURORA Diamond จะใช้มาตรฐาน 5Cs โดยเพิ่ม 5. Confidence คือ ความมั่นใจ ด้วยการพิจารณาความงามของเพชรตามมาตรฐานที่แท้จริงอีกหนึ่งข้อ ทำให้เพชรจาก AURORA Diamond ทุกแบบทุกคอลเลกชันมีครบทั้งคุณภาพ ความประณีต และงดความงาม
ข้อดีของการลงทุนกับเพชรที่มีเรื่องราว คือ ขายทำกำไรได้ง่ายกว่าเพชรทั่วไป เพราะมีฐานลูกค้าเฉพาะกลุ่ม ตัวอย่างเช่น แหวนเพชรเม็ดเดี่ยว LEVA COLLECTION (YELLOW GOLD) ซึ่งเป็นแหวนเพชรแท้ น้ำ 100 หรือเพชรแท้หายากที่มีเพียง 2% ของโลก และได้รับการรับรองจากสถาบันเพชรระดับโลกจากอังกฤษอย่าง De Beers เหมาะกับการซื้อไว้ลงทุนมากที่สุด เพราะความเปล่งประกายที่เหนือระดับ สัมผัสได้เพียงตาเปล่า และส่งต่อความประทับใจไปกับอัญมณีที่ได้ชื่อว่าทรงคุณค่ามากที่สุด หรือหากคุณเป็นสายมู แหวนเพชรกังหันรุ่น 5 THE MIRACLE MILL COLLECTION (YELLOW GOLD) ที่นอกจากจะโดดเด่นเรื่องดีไซน์แล้ว ยังเอาใจสายมูด้วยการปลุกเสกจากวัดไชกงที่ฮ่องกง ช่วยปัดเป่าสิ่งที่ไม่ดีออกไป และพัดพาเอาสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต หรือหากใครไม่ชอบสวมแหวน อาจเลือกเป็น สร้อยข้อมือเพชร DYRBARA COLLECTION (YELLOW GOLD) ที่สามารถสวมใส่ได้ในทุกโอกาส มีความเรียบหรู และคลาสสิก แต่แฝงไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างชื่อ Dyrbara ที่มาจากภาษาสวีดิช (Swedish) แปลว่า ล้ำค่า หรือ Precious นั่นเอง เพียงเท่านี้ก็สามารถทำให้เพชรของคุณมีเรื่องราว หากนำไปลงทุนเพชรเก็บสะสมระยะยาวก็ทำให้มีเรื่องเล่า เพิ่มความน่าสนใจให้เครื่องประดับชิ้นนั้น ๆ ได้
ใบรับรอง (Certificate) หรือ ที่หลายคนเรียกติดปากว่า ‘ใบเซอร์’ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการซื้อเพชร เพราะเป็นเอกสารยืนยันว่าเพชรที่อยู่ในมือเป็นเพชรแท้ ซึ่งใบรับรองนี้ต้องออกโดยสถาบันตรวจสอบที่รับการยอมรับในระดับสากล หรือระดับโลก และในปัจจุบันการออกใบเซอร์ สามารถออกให้เพชรที่มีน้ำหนักตั้งแต่ 0.30 กะรัตขึ้นไป ทาง AURORA Diamond มีการออกใบเซอร์รับรองจากสถาบัน De Beers จากประเทศอังกฤษ ทำให้มั่นใจได้ว่าเป็นเพชรแท้ มีคุณภาพ และงดงามอย่างแท้จริง
หลายคนที่กำลังวางแผนลงทุนเครื่องประดับต้องเคยรู้สึกลังเลว่าจะลงทุนเพชร หรือลงทุนอัญมณีประเภทพลอยดี เพราะอัญมณีทั้งสองประเภทมีลักษณะใกล้เคียงกันมาก โดยเฉพาะเพชร ทับทิม ไพลิน และมรกต ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Big4 แห่งอัญมณีที่ซื้อขายได้ราคาดีเช่นเดียวกัน แต่หากพิจารณาในหลาย ๆ มุมจะเห็นว่าการลงทุนเพชรนั้นดีกว่าหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น
การทำกำไรจากของสะสมที่ดีที่สุด คือ การซื้อในราคาถูกเพื่อถือครอง และขายในราคาที่สูงกว่า ดังนั้นเพชรจึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ หรือนักลงทุนที่มีเงินทุนมาก เพราะปัจจุบันมีเพชรให้เลือกหลายราคา หลายเกรด และหลายรูปทรง ส่วนกลุ่มอัญมณีหายากมักมีราคาสูง อีกทั้งยังมักซื้อขายแบบก้อนใหญ่ จึงต้องใช้เงินทุนในการซื้อมากกว่า
เหตุผลที่ทำให้เพชรเป็นอัญมณีที่ได้รับความนิยมมากกว่าประเภทอื่นๆ คือ เพชรเป็นเครื่องประดับที่สามารถใช้ได้ในหลายโอกาส ทั้งงานหมั้น งานแต่ง สวมใส่ในชีวิตประจำวัน หรือมอบให้กันเป็นของขวัญก็ได้ ตัวอย่างเช่น Infinity Love Collection คอลเลกชันแหวน กำไลข้อมือ และต่างหู ของ AURORA Diamond ที่มาพร้อมสัญลักษณ์และความหมายดี ๆ AURORA Diamond เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องประดับงานหมั้น งานแต่งงาน และการใช้ในชีวิตประจำวัน เหมาะกับการแต่งตัวหลายสไตล์ แต่หากชอบเพชรสไตล์มินิมอลเอาไว้สวมใส่ทั่วไป ทาง AURORA Diamond มีคอลเลกชัน Diamond line แหวนแถวยอดนิยมขายดีด้วยเพชรทุกเม็ดที่ส่องประกายเท่ากันอีกด้วย
แน่นอนว่าการลงทุนทองเป็นการลงทุนที่คนส่วนใหญ่คุ้นเคย และได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะเป็นสินทรัพย์ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซื้อง่าย ขายคล่อง หากเดือดร้อนสามารถขาย เพื่อทำกำไรได้ทันที และยังมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเก็บสะสมด้วย สำหรับการลงทุนทองมีด้วยกัน 2 รูปแบบดังนี้
การลงทุนทองคำ คือ การซื้อทองคำแท่ง หรือทองคำรูปพรรณจากร้านขายทองโดยตรง ข้อดีคือได้ทองจริงมาอยู่ในมือ สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวัน แต่การสะสมทองจริงควรสะสมให้ได้อย่างน้อย 10-20 บาท จึงจะคุ้มค่ากับการลงทุน
การลงทุนทองแบบที่สอง คือ การลงทุนในกองทุนรวมที่มีการนำเงินไปลงทุนกับทองคำอีกที ซึ่งจุดเด่น คือ สามารถเริ่มต้นด้วยเงินลงทุนน้อย มีความเสี่ยงต่ำ และไม่ต้องบริหารการลงทุนเอง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเป็นผู้ดำเนินการแทน จึงเหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ สำหรับผลตอบแทนจะอยู่ในรูปแบบของเงินปันผล และส่วนต่างจากการขายหน่วยลงทุนคืนให้กับกองทุน
การสะสมนาฬิกามองเผิน ๆ อาจเป็นเพียงเรื่องของรสนิยม และความชอบส่วนตัว ซึ่งในความจริงแล้วนาฬิกาถือเป็นสินทรัพย์ที่สามารถทำกำไรได้เช่นกัน แต่การลงทุนนาฬิกาจำเป็นต้องศึกษารายละเอียด และพิถีพิถันในการเลือก โดยหากต้องการสะสมเพื่อทำกำไร ควรเลือกจากแบรนด์ที่ตัวเองชื่นชอบ แบรนด์ที่เป็นที่ต้องการของตลาด เลือกรุ่นที่มีความน่าสนใจ หรือรุ่น Limited และต้องมีใบรับรองการันตีว่าเป็นนาฬิกาของแท้
แน่นอนว่าการลงทุนนาฬิกาแบรนด์ดัง ย่อมดีกว่าการลงทุนกับนาฬิกาแบรนด์ทั่วไป เพราะความนิยมจะทำให้ขายได้ง่ายขึ้นเมื่อต้องการผลตอบแทน โดยแบรนด์ที่ได้รับความนิยมในตลาดนักสมนาฬิกา มีดังนี้
ระบบนาฬิกา คือ เรื่องที่คนอยากลงทุนเครื่องประดับประเภทนาฬิกาต้องศึกษาให้ดี เพราะหากเลือกผิดเป็นรุ่นที่ตลาดไม่นิยมอาจทำให้ขายยาก อย่างนาฬิการะบบ Quartz หรือ นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ แม้จะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งาน แต่กลับทำกำไรได้ยากเวลาขายต่อในตลาดนาฬิกามือสอง สำหรับระบบนาฬิกาที่คนนิยมสะสม เช่น
ดีไซน์เป็นอีกคุณสมบัติที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากชื่อแบรนด์แล้ว ความสวยงามก็มีส่วนเพิ่มมูลค่าของนาฬิกาเช่นกัน หากเพิ่งเริ่มสะสมนาฬิกาควรมองหานาฬิกาลาย Guilloche ที่ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Rose Engine ในการแกะสลักภาพบนหน้าปัดด้วยมือทุกขั้นตอน หากชอบอัญมณีอาจเลือกนาฬิกาฝั่งเพชรบริเวณรอบหน้าปัด หรือบนหน้าปัดนาฬิกา หรือนาฬิกาที่มีออกแบบตัวสายให้มีความสวยงามโดดเด่นไม่เหมือนใคร ซึ่งทั้งหมดจะช่วยเพิ่มเอกลักษณ์ให้กับนาฬิกาที่คุณสะสมมากขึ้น
การลงทุนเครื่องประดับประเภทสร้อย แหวน ต่างหู หรือกำไล เป็นอีกหนึ่งการลงทุนของสะสมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เพราะเป็นเครื่องประดับที่คนทั่วไปส่วนใหญ่ใช้กัน จึงขายทำกำไรได้ง่าย โดยเฉพาะกับกลุ่มคนชอบเปลี่ยนเครื่องประดับบ่อย ๆ โดยการลงทุนเครื่องประดับที่แนะนำมี 2 แบบ ดังนี้
การลงทุนเครื่องประดับที่มีตราแบรนด์ หรือของแบรนด์เนม เป็นการลงทุนที่ได้รับความนิยมมาก เพราะได้ประโยชน์ทั้งเรื่องความชอบส่วนตัว และผลกำไรในอนาคต แต่กลุ่มที่สามารถทำกำไรได้จะเป็นกลุ่มเครื่องประดับหายาก เครื่องประดับชุด Limited หรือผลงานจากดีไซเนอร์ดัง เช่นเดียวกับการลงทุนของสะสมประเภทอื่น ยิ่งถือครองไว้นานยิ่งมีคุณค่า และราคาสูงขึ้น
การลงทุนเครื่องประดับประเภทเครื่องประดับวินเทจ เปรียบเสมือนกับการลงทุนกับผลงานศิลปะที่มีความโดดเด่นเฉพาะตัว ในบางครั้งจึงต้องใช้เงินลงทุนสูงในตอนแรก และต้องเลือกสะสมเครื่องประดับเช่นเดียวกับเครื่องประดับมีตราแบรนด์ เพราะเครื่องประดับประเภทนี้ยิ่งหายาก ยิ่งสะสมนาน ยิ่งมีราคาสูง
การลงทุนแบบ Passion Investment หรือ การลงทุนในของสะสมไว้ทำกำไร ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบการลงทุนที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะลงทุนเครื่องประดับที่นอกจากจะให้ผลกำไรในอนาคตแล้ว ยังมีคุณค่าทางจิตใจในฐานะของสะสมด้วย